10 ประโยชน์มะเขือเทศราชินี
ถ้าเอ่ยถึงมะเขือเทศ เชื่อว่าทุกคนคงจะรู้จักมะเขือเทศลูกโต ๆ อย่างมะเขือเทศสีดากันเป็นอย่างดี เพราะเป็นผลไม้ที่นิยมนำมาประกอบอาหาร และยังเปี่ยมล้นไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อีกทั้งยังช่วยบำรุงผิวได้ดีเยี่ยม แต่ถ้าเอ่ยถึงญาติของมันอย่างมะเขือเทศราชินีล่ะ บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามะเขือเทศลูกเล็กอย่างมะเขือเทศราชินีนั้นมีประโยชน์ขนาดไหน
มะเขือเทศราชินี กับ มะเขือเทศเชอร์รี (Cherry tomato) ก็คือผลไม้ชนิดเดียวกัน มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Solanum lycopersicum L. var. cerasiforme อยู่ในวงศ์ Solanaceae เป็นพืชล้มลุก ลำต้นตั้งตรง มีขนอ่อน ๆ ปกคลุมลำต้น ใบประกอบเป็นแบบสลับ ใบย่อยมีขนาดไม่เท่ากัน บางใบเล็กเรียว บางใบกลมใหญ่ ปลายใบแหลม ขอบใบหยัก คล้ายฟันเลื่อย มีขนอ่อนปกคลุม ดอกมีสีเหลือง ผลมีลักษณะกลมรี หรือทรงรี เมื่อสุกจะมีสีเหลือง สีส้ม หรือสีแดง เนื้อนุ่มฉ่ำน้ำ มีรสเปรี้ยวอมหวาน
ใครจะไปคาดคิดว่าในมะเขือเทศราชินีลูกเล็ก ๆ จะมีคุณค่าทางอาหารซ่อนอยู่เพียบ เราไปดูกันดีกว่าว่า ในมะเขือเทศราชินี 100 กรัม (ประมาณ 5-7 ลูก) มีคุณค่าทางโภชนาการอะไรบ้าง
- พลังงานประมาณ 18 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต 4.2 กรัม
- ไฟเบอร์ 0.8 กรัม
- กลูโคส 2.5 กรัม
- โปรตีน 0.8 กรัม
- โซเดียม 10.8 มิลลิกรัม
- วิตามินเอ 86.3 ไมโครกรัม
- วิตามินซี 34.1 มิลลิกรัม
- แคลเซียม 12.5 มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก 0.3 มิลลิกรัม
+ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
ผลไม้ฉ่ำน้ำ รสเปรี้ยวอมหวานชนิดนี้มีวิตามินซีอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ ซึ่งวิตามินซีจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดขาวเพื่อป้องกันหรือกำจัดเชื้อโรคแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย จึงช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้น ไม่ป่วยไม่เจ็บง่าย ๆ และโดยทั่วไปแล้ว ผู้หญิงต้องการวิตามินซีวันละ 75 มิลลิกรัม ส่วนผู้ชายต้องการวิตามินซีวันละ 90 มิลลิกรัม ซึ่งมะเขือเทศราชินี 1 ถ้วย (ประมาณ 240 กรัม หรือ 14-15 ลูก) จะให้วิตามินซีราว ๆ 80 มิลลิกรัม ก็ถือว่าเพียงพอกับความต้องการของร่างกายใน 1 วัน
มีมะเขือเทศราชินีที่ไหน มีไลโคปีน (Lycopene) ที่นั่นค่ะ เชื่อว่าทุกคนคงจะเคยผ่านหูผ่านตากับชื่อของไลโคปีนกันมาบ้างแล้ว ซึ่งไลโคปีนก็คือ สารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (Carotenoid) ที่จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต่าง ๆ อันมีสาเหตุมาจากเซลล์ถูกทำลายได้ อย่างเช่น โรคมะเร็ง ยืนยันโดยงานวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร "Canadian Medical Association Journal"
นอกจากในมะเขือเทศราชินีจะเป็นแหล่งไลโคปีนแล้ว ในมะเขือเทศราชินียังมีสารประกอบฟีนอลิก (Phenolic compounds) ที่จะช่วยป้องกันโรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือดได้เป็นอย่างดี โดยจากการศึกษาของคณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เขตพระนคร ร่วมกับ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เรื่อง "ผลของสายพันธุ์ต่อความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระและฤทธิ์การต้านออกซิเดชั่นของมะเขือเทศราชินี" ในมะเขือเทศราชินีสุก 4 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ 12005 12034 C40 และ G50 พบว่ามะเขือเทศราชินีสายพันธุ์ C40 มีสารประกอบฟีนอลิก(Phenolic compounds) และมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุด ที่จะช่วยป้องกันโรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือดได้ ฉะนั้นถ้าเรากินมะเขือเทศราชินีเป็นประจำ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งและโรคหัวใจได้
+ แก้ปวดและต้านการอักเสบ
ใครที่เป็นโรคข้ออักเสบ แนะนำให้กินมะเขือเทศราชินีค่ะ เพราะในมะเขือเทศราชินีมีสารไบโอฟลาโวนอยด์ (bioflavonoid) และแคโรทีนอยด์ช่วยบรรเทาอาการปวด อาการอักเสบ และชะลอโรคให้ช้าลง ส่วนใครที่ยังไม่ได้เป็นโรคข้ออักเสบมะเขือเทศราชินีก็ช่วยป้องกันโรคไขข้ออักเสบได้ด้วยนะ
โพแทสเซียมเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยเป็นเกราะกำบังโรคหลอดเลือดและหัวใจค่ะ ซึ่งมะเขือเทศราชินี เป็นแหล่งโพแทสเซียมชั้นดีเลย เพราะมะเขือเทศราชินี 1 ถ้วย ให้โพแทสเซียมมากกว่า 350 มิลลิกรัม ทานเป็นประจำจะช่วยควบคุมความดันโลหิตให้เป็นปกติ และป้องกันโรคหัวใจได้
+ แก้ท้องผูก บูทระบบขับถ่าย
ในมะเขือเทศราชินีอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำ จึงช่วยทำความสะอาดทางเดินอาหาร และช่วยเพิ่มกากอาหาร ทำให้ขับถ่ายสะดวกขึ้น จึงเป็นอาหารที่เหมาะกับคนที่ปัญหาระบบขับถ่ายโดยเฉพาะท้องผูกประจำ ต้องหม่ำมะเขือเทศราชินีให้ไวเลย
มะเขือเทศราชินีเป็นผลไม้ที่คู่ควรกับคนที่กำลังลดน้ำหนักจริง ๆ ค่ะ เนื่องจากมีปริมาณน้ำและเส้นใยอาหารมาก กินแล้วอิ่มท้อง คนที่กำลังไดเอตอย่าลืมหามะเขือเทศราชินีมาวางไว้ใกล้ตัวนะคะ หิวเมื่อไรจะได้หยิบกินได้สะดวก
+ บำรุงสายตา
ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจค่ะ ถ้าใครอยากมีสายตาดี ต้องกินมะเขือเทศราชินีที่มีสารเบต้า-แคโรทีน (Beta-carotene) สูงมาก การันตีจากการศึกษาเรื่อง "องค์ความรู้เรื่องปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระในผลไม้เพื่อส่งเสริมสุขภาพ (วิตามินซี วิตามินอี และเบต้า-แคโรทีน) ในผลไม้" โดยสำนักโภชนาการ กรมอนามัย พบว่ามะเขือเทศราชินีสีเหลืองมีเบต้า-แคโรทีน สูงเป็นอันดับ 2 ในบรรดาผลไม้ทั้งหมด 10 ชนิดที่นำมาทดสอบ (ผลไม้อื่น ๆ ได้แก่ มะม่วงน้ำดอกไม้สุก มะละกอสุก กล้วยไข่ มะม่วงยายกล่ำ มะปรางหวาน แคนตาลูปเนื้อเหลือง มะยงชิด มะม่วงเขียวเสวยสุก และสับปะรดภูเก็ต) ซึ่งเจ้าเบต้า-แคโรทีนนี่ล่ะค่ะที่ช่วยบำรุงสายตา ทำให้เรามองเห็นได้ดีในที่มืด แถมยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต้อกระจกอีกด้วย
สาว ๆ ที่อยากมีผิวขาวใส อมชมพู แก้มแดง โดยไม่ต้องพึ่งแอพฯ ขอแนะนำให้กินมะเขือเทศราชินีค่ะ เพราะในมะเขือเทศราชินีมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอวัย ลดริ้วรอย บำรุงผิวพรรณให้สดใส ชุ่มชื้น ส่วนคนที่มีปัญหาหน้ามัน ผิวมันบ่อย ๆ หยิบมะเขือเทศราชินีในครัวขึ้นมาหั่นบาง ๆ แล้วโปะลงบนหน้าสักพัก จากนั้นค่อยล้างออก ทำเป็นประจำทุกเช้าและก่อนนอน ก็จะช่วยให้หน้าใส ไร้ความมันมากวนใจ
ช่วงวัยรุ่นเป็นวัยที่ฮอร์โมนกำลังเปลี่ยนแปลง จึงมีปัญหาสิวกวนใจได้ง่าย แต่ถ้าใครมีมะเขือเทศราชินีอยู่ใกล้ ๆ ตัว ก็ลองหยิบมะเขือเทศราชินีมารักษาสิวดูสิคะ ในมะเขือเทศราชินีมีวิตามินอี จึงมีสรรพคุณช่วยรักษาสิวได้ วิธีการก็คือ เฉือนมะเขือเทศราชินิให้เป็นชิ้นบาง ๆ และวางไว้บริเวณที่มีสิวขึ้นสัก 30 นาที แล้วล้างหน้าให้สะอาด เพียงเท่านี้สิวก็จะลดลง ผิวหน้าก็จะชุ่มชื้น มีน้ำมีนวลขึ้น อย่างเห็นได้ชัด
+ ป้องกันผมร่วง
ปัญหาผมร่วงคงเป็นปัญหาใหญ่สำหรับใครหลาย ๆ คนใช่ไหมคะ เพราะส่งผลต่อบุคลิกของเรา นี่ถ้าใครผมร่วงมาก ๆ อาจถึงขั้นสูญเสียความมั่นใจในตัวเองไปเลยแต่อย่าเพิ่งกังวลไปค่ะ เพราะในมะเขือเทศราชินีมีวิตามินเอ ที่จะช่วยให้สุขภาพผมแข็งแรงขึ้น เพียงแค่เราคั้นน้ำมะเขือเทศราชินี แล้วนำมาสระผมแทนชมพู ผมของเราก็จะมีสุขภาพดีขึ้นได้ แต่อย่าลืมล้างผมให้สะอาดด้วยนะ ไม่อย่างนั้นละก็ผมจะเหนียวและดูรุงรังมากขึ้นไปอีก
ถึงแม้ว่ามะเขือเทศราชินีจะมีประโยชน์มากขนาดไหน แต่ใช่ว่าทุกคนจะกินมะเขือเทศราชินีได้นะคะ เพราะยังมีคนบางกลุ่มที่ควรระวังในการกินมะเขือเทศราชินี อย่างเช่น
+ คนที่มีภาวะกรดไหลย้อน
คนที่มีภาวะกรดไหลย้อน ถ้ากินมะเขือเทศราชินีมากเกินไป จะทำให้โรคกำเริบได้ เนื่องจากมะเขือเทศราชินีมีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อน ๆ
+ คนที่เป็นโรคไตและผู้ที่มีภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูง
คนที่เป็นโรคไตและคนที่มีภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูงไม่ควรกินมะเขือเทศราชินีค่ะ เนื่องจากมะเขือเทศราชินีมีโพแทสเซียมสูงอยู่แล้ว ถ้าร่างกายขับโพแทสเซียมออกมาไม่หมด จะทำให้ระบบกล้ามเนื้อ ระบบประสาท ระบบหัวใจและหลอดเลือดเกิดความผิดปกติ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหัวใจที่อาจหยุดเต้นจนเสียชีวิตได้เลย
เมื่อได้รู้ประโยชน์ของมะเขือเทศราชินีแบบนี้แล้ว ก็อย่ารอช้า รีบไปจัดมะเขือเทศราชินีโดยด่วนเลยนะคะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น